แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ปราการหลังกัปตันกลุ่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดใจว่าตนยังเล่นไม่เข้ากันกับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ กองหลังตัวกลาง ชาวอาร์เจนไตน์ หลังทั้งคู่ได้ลงสู่สนามตัวจริงพร้อมในแมตช์แพ้ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 1-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 เดือนสิงหาคมก่อนหน้าที่ผ่านมา
แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับมือ ไบรท์ตัน โดยพวกเขามุ่งมั่นจะคว้า 3 คะแนนเพื่อเป็นการเปิดฉากแนวทางการทำหน้าที่อย่างเป็นทางการของเอริก เทน ฮาก แต่ว่าในที่สุดเปลี่ยนเป็น “ผีแดง” แพ้คาบ้านตั้งแต่เปิดหัวฤดู 2022/2023
หลังจบเกม แม็กไกวร์ เห็นด้วยว่าตนยังคงจำเป็นต้องปรับตัวกับการเล่นร่วมกับ มาร์ติเนซ อีกสักพัก “มันเกิดเรื่องที่สุดยอดที่มี ลิซานโดร มาร์ติเนซ อยู่ที่สมาพันธ์ที่นี้ ตำแหน่งกองหลังตัวกลาง มีการแข่งขันเข้มข้นมากมายๆพวกเราไม่ค่อยได้เล่นด้วยกันมากนัก และก็ในระยะแรกๆพวกเรายังจูนคลื่นไม่ตรงกัน”
“คู่หูในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง จะต้องใช้เวลาสำหรับเพื่อการสร้าง แล้วก็เราจะทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆและก็ช่วยเหลือกันเก็บคลีนชีต ทุกๆคนทราบว่ามันเกิดเรื่องลำบาก พวกเรามีฤดูกาลที่เลวร้ายเมื่อฤดูก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา พวกเราเพิ่งจะได้ผู้จัดการทีมฟุตบอลคนใหม่ซึ่งพากเพียรใส่ปรัชญาของเขาลงไปในกลุ่ม แต่ว่าพวกเรายังไม่สามารถที่จะกระทำตามที่เขาปรารถนาได้”
สำหรับผลงานเปิดฤดูกาลด้วยความแพ้พ่ายนั้น แม็กไกวร์ แสดงความเห็นว่า “พวกเราเริ่มทั้งหมดทุกอย่างในด้านบวก พวกเรามีช่วงปรีซีซั่นที่ดียอดแต่ว่านี่เป็นการเริ่มที่ห่วยแตกที่สุดเท่าที่จะเป็นได้เมื่อต้องตามหลัง 0-2 ในครึ่งแรกที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด”
“พวกเราได้ประตูคืนมาแต่ว่าพวกเรารู้สึกไม่ดีเพราะว่านี่เป็นการเริ่มที่เลวร้ายส่วนตัวสำหรับเรา ถึงแม้ว่าพวกเราจะเริ่มเกมได้ค่อนข้างดี รวมทั้งสามารถคุมเกมได้ตลอด แล้วเราเสียประตูแรกรวมทั้งมันเสมือนพวกเราโดนตีอย่างแรง การไม่เสียประตูแรกมันส่งผลกระทบกับเราอย่างมาก”
“มันเสมือนฝันร้ายที่เริ่มด้วยการตามหลัง 0-2 ก่อนพักครึ่ง พวกเราพุดคุยกันเรื่องการทำประตูคืน (ในเวลาพักครึ่ง) ผมคิดว่าในช่วงหลังพวกท่านคงจะมองเห็นแล้วว่าพวกเราเล่นได้ดีขึ้น แต่ว่าโดยรวมแล้วเรายังทำเป็นไม่ดีพอ พวกเรากดดันเยอะมากรวมทั้งครอบครองบอลได้ตลอดแต่ว่าพวกเราจำเป็นต้องสร้างสรรค์จังหวะให้มากยิ่งกว่านี้ รวมทั้งจะต้องปรับปรุงขึ้นตรงจุดนี้”
“มันเป็นสิ่งที่พวกเราจำต้องปรับปรุงแก้ไขหรือไม่อย่างนั้นเรื่องอย่างงี้อาจจะมีการเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆการเสียประตูแรกมันเหมือนกับระเบิดลูกใหญ่หล่นใส่นักฟุตบอลทั้ง 11คนของเรา” กองหลังกลุ่มชาติอังกฤษ ร่ายยาว
